20.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ 

ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ U โดยสายการบิน TURKIRSH AIRLINES โดยท่านทำการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารด้วยตนเอง

23.00 น.    เหินฟ้าสู่เมือง โซเฟีย โดยสายการบิน TURKIRSH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK609 (2300-0520+1)

07.45 น. เปลี่ยนเครื่องที่ อิสตัลบูล และเหินฟ้าสู่เมือง โซเฟีย โดยสายการบิน TURKIRSH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK1027 (0745+1-0905+1) ( ใช้เวลาบิน 14 ชั่วโมง 05 นาที )

09.05 น. เดินทางถึงสนามบิน โซเฟีย (Sofia Airport ) ณ ประเทศบัลกาเรีย ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ตอนรับท่านอย่างอบอุ่น นำท่านชมเมืองโซเฟีย ( Sofia ) เมืองเก่าแก่กว่า 8500 ปี ตั้งอยู่บนทางแยกที่สำคัญระหว่างเอเชียไมเนอร์และยุโรป จึงคละเคล้าไปด้วยโบราณสถานที่สวยงาม อนุเสาวรีย์ของโซเฟียเป็นที่แสดงให้เห็นว่า เมืองโซเฟียมีวัฒนธรรมและอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรือง เมืองที่สวยงามบนทางที่จะเติบโตไปทางวัฒนธรรมแบบยุโรปเมืองใหญ่และทันสมัย โซเฟียเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวทราเชียน หรือเรียกว่า Serdica หรือ Sardia เป็นเผ่าที่เกิดขึ้นหลังยุคเซลติก ในช่วงศตวรรษที่ 4 BC ชาว Serdica ถูกครอบครองโดย กษัติรย์ฟิลิปแห่งมาเซโดเนีย และลูกชายของฟิลิป คืออเล็กซานเดอร์มหาราช นำท่านชมซากป้อมปราการเก่าทางฝั่งตะวันตก The ancient Serdica Fortifications  ที่สร้างระหว่างศตวรรษที่ 5-3 BC 

พาท่านชม มหาวิหารอเล็กซานเดอร์ เนสกี ( Alexander Nevski Cathedral ) ซึ่งเป็นมหาวิหารคริสจักรนิกายออโธดอซ์ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก  ผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชาวรัสเซีย Pomerantzev สร้างในปี ค.ศ. 1912 ทั้งนี้มหาวิหารมีสถาปัตยกรรมแบบนีโอไบแซนไทน์ มีโดมหลังคาทรงกลมสีเขียวหลังใหญ่พร้อมตกแต่งด้วยหินอ่อนอย่างปราณีตและงดงาม สถาปนิคที่ออกแบบคือ อเล็กซานเดอร์ โพมีรานท์เซฟ 

โดยภายในโบสถ์สามารถรองรับผู้คนที่เข้ามาร่วมทำพิธีได้ราว 10,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายออร์โธด๊อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดๆ ของภูมิภาคคาบสมุทรบอลข่าน 

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

บ่าย หลังจากรับประทานอาการกลังวันเรียบร้อย โกลบอลฮอลิเดย์ขอพาท่านเดินมุ่งหน้าไปยังเมือง พลอฟดิฟ ( Plovdiv ) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศบัลแกเรีย รองจากเมืองโซเฟีย เมืองพลอฟดิฟ เป็นเมืองที่มีประวัติศาตร์เก่าแก่อันยาวนานกว่า 4,000 ปีก่อนคริสตกาล และจัดได้ว่าเป็นหนึ่งเมืองที่มีความเก่าแก่อย่างมากในทวีปยุโรปเช่นกัน บรรยากาศของเมืองมีเอกลักษณ์จากสถาปัตยกรรมที่ได้รับวัฒนธรรมจากหลากหลายแห่งและรวบรวบผสมผสานมาหลายศตวรรษ โกลบอลฮอลลิเดย์ขอพาท่านเที่ยวชม โบสถ์เซนต์ คอนสแตนติน ( Constnantine Church ) โบสถ์เฮเลนนา ( Helena Church )  ของเมืองพลอฟดิฟ เนเบต เทพ์ป ( Nebet Tepe ) และเดินชมซาก 

กำแพงเมืองโบราณที่ยังคงอยู่ โรมันสเตเดียม 

( Roman Staduim ) ( The Mosque Dzumaya ) และ ( Roman Forum )

พาท่านเดินชมร้านค้า งานฝีมือ สินค้าของที่ระลึก ของท้องถิ่นและเดินชมจุดชมวิว ต่อมาท่านไปชม คาปานา ( Kapana ) 

เป็นถนนเส้นเล็กๆที่ปัจจุบันเป็นเหมือนไฮไลท์ของเมือง เนื่องจากมีร้านค้าที่น่าสนใจ สร้างสรรค์ธุรกิจและผลงานอาร์ทๆ ล้ำๆ บนถนนเส้นนี้ ซึ่งสร้างสีสันในให้กับเมืองพลอฟดิฟไม่น้อย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 

พักผ่อนที่โรงแรม Hotel  Ramada Plovdiv Trimontium 4* หรือเทียบเท่า , Plovdiv

เช้า รับประทานอาหารเช้า

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย เดินทางออกจากเมือง พลอฟดิฟ (Plodiv) 

โกลบอลฮอลิเดย์จะพาท่านแวะยัง หมู่บ้านคอพริชริซา ( Koprivshtitsa Village ) 

ใช้เวลาการเดินทางไปยังหมู่บ้าน 1.45 ชม. หมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่

ที่มีชื่อเสียงของประเทศบัลกาเรีย พูดได้ว่าถ้ามาประเทศบัลกาเรียแล้วมา

ไม่ถึงที่หมู่บ้านคอพริชริซานี้คือมาไม่ถึงประเทศบัลกาเรียเลยทีเดียว เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้มีกลิ่นอายของศิลปะ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวบ้านท้องถิ่น และความสวยงามของทัศนียภาพโดยรอบ นอกจากนั้นเรายังให้ท่านร่วมกิจกรรมภายในหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงอย่างการทำโยเกิร์ต ทำชีท พร้อมทั้งการตอนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้านในหมู่บ้าน

กลางวัน รับประทานอาหารเที่ยง 

บ่าย พาท่านเดินทางไปยังเมือง คาซานลัก ( Kanzanlak ) สถานที่ที่เราจะมาร่วมงานเทศกาลกุหลาบในงานวันประจำปี ณ หุบเขาแห่งทุ่งกุหลาบในวันรุ่งขึ้น  ซึ่งเป็นเมืองที่มีการปลูกกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบัลกาเรีย ดอกกุหลายจึงเป็นดั่งสัญลักษณ์ของเมือง เมืองคาซานรัคตั้งอยู่บริเวณเชิงเทือกเขาบอลข่าน ทางฝั่งตะวันออก เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในบัลแกเรีย และเป็นศูนย์กลางในการสลัดและผลิตน้ำมันดอกกุหลาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกผลผลิตที่ได้ส่งออกไปให้โรงงานผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางค์ในต่างประเทศแถบยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมันนี สหรัฐอเมริกา น้ำมันดอกกุหลาบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำสืบทอดกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนถึงปัจจุบัน 

นำท่านชมสุสานโบราณเธรเชียนแห่งคาซารัค เพื่อชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่หลุมฝังศพของกษัตริย์ทราเชียน (The Thracian Kings Tomb) ย้อนไปในศต.ที่ 4 ก่อน BC ภาพแสดงถึงพิธีกรรมการฉลองงานต่างๆ ถือเป็นจิตรกรรมภาพเขียนสีในยุคเฮเลนิสติกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และอยู่ในการคุ้มครองขององค์กรยูเนสโก้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1979 และพาท่านชมพิพิธภัณฑ์แห่งประวัตืศาสตร์คาซานรัค  ( Museum of history in Kazanlak ) 

ต่อมานำท่าน ไปยังโบสถ์แห่งชิพก้า ( Shipka Memorial Church ) หรือ เรียกอีกว่าว่า Memorial Temple of the Birth หรือ  ห่างจากคาซานรัคราว 12 กม.  เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1885 -1902 เป็นโบสถ์คริสต์นิกายบัลกาเรี่ยวออธอดอกซ์ เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานแด่ทหารรัสเซีย ยูเครน และบัลกาเรีย ที่เสียชีวิตในสงครามรุสโซ่ 

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ 

พักผ่อนที่โรงแรม Spa Hotel Calista ,  4* หรือเทียบเท่า, Kazanlak

เช้า รับประทานอาหารเช้า

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย โกบอลฮอลิเดย์นำท่านเข้าร่วมชมเทศกาลประจำปีแห่งคาซานรัค คือเทสกาลดอกกุหลาบ อันมีชื่อเสียง เทศกาลดอกกุหลาบ ( Rose Festival ) เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน เป็นงานที่จัดขึ้นมาเพื่อความรื่นเริง บันเทิงสนุกสนานให้กับชาวคานซานรัค โดยในงานจะมีขบวนพาเหรดเดิน โปรยดอกกุหลาบ ประกวดสาวสวยแห่งคาซานรัคที่ร่วมใส่ชุดพื้นเมืองมาร่วมงานและมงกุฎดอกกุหลาบ พิธีกรรมการการแสดงแบบดั้งเดิมที่ให้ความรู้สึกที่แท้จริงของการเก็บเกี่ยวดอกกุหลาบ  เต้นรำแบบดั้งเดิมในทุ่งดอกกุหลาบนอกนั้นท่ายังได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากท้องถิ่น ชมการแสดงดนตรีโฟลค การแสดง นิทรรศการ ชิมไวน์เป็นต้น

นำท่านไปยังหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในคาซานรัคที่เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขาดอกกุหลาบ หมู่บ้านทรานนิช (Tarnichene) เป็นหนึ่งในที่ที่ปลูกดอกกุลาบที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรปก็ว่าได้ คุณจะได้เรียนรู้กรรมวิธีการทำน้ำมันดอกกุหลาบ ที่เป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศที่มีชื่อของคาซานลัก

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

เดินทางไปยังเมืองสู่ เวลิโก ทาร์โนโว ( Veliko Tarnovo) ใช้เวลา 1.20 ชั่วโมง

17.00 น. ถึงเมือง เวลิโก ทาร์โนโว ( Veliko Tarnovo) ตั้งแต่ปี ค.ศ.1186 หลังสองทศวรรษภายใต้การปกครองของจักรวรรดิไบเซนไทน์ เวลีโกทาร์โนโวกลายเป็นเมืองที่มีความสำคัญด้านการเมืองการปกครองรวมถึงศูนย์รวมทางศาสนาและวัฒนธรรมของบัลแกเรียตลอดมา เสมือนพระเจ้าทานอฟ เทพราชินีแห่งเมืองได้ปกป้องเมืองแห่งนี้ไว้ 

ค่ำ รับประทานอาหาร

พักผ่อนที่โรงแรม Hotel Yantra ,  4* หรือเทียบเท่า, Veliko Tarnovo

เช้า รับประทานอาหารเช้า

นำท่านเดินชมเมืองเก่าไปตามถนน Winding Cobble Street  คนจะรู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจของผู้คนที่สามารถอยู่รอดได้ภายใต้การกดขี่ของ

ชมซากปราสาทซาเรเวทส์ (Tsarevets Fortress) เป็นป้อมปราการและพระราชวังที่แข็งแกร่งในยุคจักรวรรดิบัลแกเรีย (ยุคกลาง) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซาเรเวทส์ (Tsarevets Hill)  ปี ค.ศ 1185-1393 ด้วยกำแพงที่หนากว่า 3 เมตร ประตูทางเข้า 3  ทาง มีหอคอยบอลด์วินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีพระราชวังตั้งอยู่ตรงกลาง ที่มีกำแพงปิดล้อมอีกชั้นหนึ่ง ภายในกำแพงเมืองเต็มไปที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือและสถานที่ฝึกอบรมช่างฝีมือ เพื่อรับใช้งานทางคริสตจักร

ชมโบสถ์เก่าที่สร้างจากไม้ ในช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 จากนั้นพา

ชมบ้านที่สร้างในยุคกลาง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้

เข้าชม Konstantsaliev House

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน  

บ่าย เดินทางออกจากคาซานลัค มุ่งหน้าไปยังเมืองโซเฟีย เมืองหลวงของประเทศบัลกาเรีย 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 

พักผ่อนที่โรงแรม Hotel Trachia hotel Rosslyn,  4* หรือเทียบเท่า , Sofia

เช้า รับประทานอาหารเช้า

พาท่านเดินทางไปชม โบสถ์โบยาน่า (Bonya Church) เป็นโบสถ์ที่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ( World Heritage Site by Unesco ) สร้างขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 10 - 13 ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดในปี ค.ศ.1259 เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงความรุ่งเรืองของครสตจักรนิกายออร์โธด๊อกซ์ในยุคกลาง และยังคงเก็บรักษาภาพ ฝาผนังไว้ได้จนถึงปัจจุบัน โบสถ์โบยานานได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1979 โบสถ์ภายในมีภาพวาดสีบนปูนเปียก (Fresco) ที่มีชื่อเสียงและเป็นผลงานศิลปะจากยุคกลางต้นมีภาพวาดที่ถ่ายทอด ภาพพระเยซูคริสต สาวกที่เผยแพร่ศาสนา อัตชีวประวัติเซนต์นิโคลัส  ภาพกษัตริย์และราชินีแห่งบัลกาเรีย เป็นต้น

จากนั้นโกบอลฮอลิเดย์ขอพาท่านเดินทางไปยังเมืองริลา ( Rila ) 

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน In Rila mountain. **family restaurant

นำท่านไปชมอารามริลา (Rila Monastery) ตั้งอยู่บนเขาริลา ซึ่งสถานแห่งนี้เป็นอารามคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ( World Heritage Site by Unesco ) ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก  และเป็นอารมคริสต์ออร์โธดอกซ์ที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกในความสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก อารามริลาก่อตั้งในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 โดยนักบุญจอนห์แห่งริลา (St.John of Rila) แห่งนิกายออโธดอกซ์ ผู้ใช้ชีวิต อย่างสันโดษและเรียบง่ายในถ้ำที่ไม่ไกลจากอารามนัก หลังจากอารามสร้างโดยความร่วมมือของผู้ใฝ่เรียนที่เดินทางมาจากแดนไกลเพื่อศึกษาหาความรู้ ต่อมาสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของสังคมบัลแกเรียในยุคกลาง เป็นจุดหมายของคริสต์ศาสนิกชนนิกายออโธด๊อกซ์ในการมาแสวงบุญรวมถึงนักบุญเซนต์อิวาน ริลสกี ซึ่งมีบทบาทในการต่อสู้เรื่องการกดขี่ทางชาติพันธ์ในสมัยการยึดครองของออตโตมันเติร์ก  อารามเคยถูกไฟไหม้ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ โดยได้รับการสนันสนุนจากซาร์แห่งโซเวียต ระหว่างปี ค.ศ. 1834-1862 สถาปัตยกรรมเป็นศิลปะสมัยบัลแกเรียน-เรเนสซองส์เป็นอนุสรณ์สถานที่แสดงถึงความมั่งคั่งในยุคนั้น ตัวอาคารหลักขนาดใหญ่ทำด้วยทองคำแท้แห่งเดียวในบัลแกเรีย และเป็นแหล่งสะสมทรัพย์สมบัติและวรรณกรรมอายุกว่าร้อยปีจำนวนมาก อารามริลาเป็นสัญลักษณ์แห่งการตะหนักถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมสลาวิค (Slavic) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี 1983 (ห้ามนำกล้องและวิดีโอเข้าไปในอาคารหลัก)

 จากนั้นเดินทางกลับเมืองโซเฟีย ใช้เวลาการเดินทาง 1.30 ชั่วโมง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 

พักผ่อนที่โรงแรม Hotel Trachia hotel Rosslyn,  4* หรือเทียบเท่า, Sofia

เช้า รับประทานอาหารเช้า

พาท่านชม Ruins of Roman Serdika ต่อมานำท่าชมโรงละครของเมือง (The National Theatre)

นำท่านชม St George’s Rotonda (the oldest building preserved in Sofia)

จากนั้นไปชม โบสถ์เซนต์ โซเฟีย (The Saint Sofia Church) ซึ่งเป็นโบสถ์คริสตจักรที่อยู่ใกล้ๆกัน ที่มีความสวยงาม และยังได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่เป็นอันดับสามในทวีปยุโรป จากนั้นเดินทางไปบริเวณจัตุรัสแบทเทินเบิร์ก (Battenburg Square) เพื่อชม อาคารพระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ ได้ใช้เป็นเป็นหอศิลป์แห่งชาติ (National Art Gallery) และพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา

ผ่านชมอาคารธนาคารแห่งชาติบัลแกเรียย่านโรงละครแห่งชาติซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกจากกรุงเวียนนา Helmer & Felmer เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างนีโคคลาสสิกกับซีเซสชั่น (Neo-classic and Secession Style), อาคารทำเนียบรัฐบาล (1884-1886), มหาวิทยาลัยโซเฟีย

ชมมัสยิดบันยาบาชิ (Banya Bashi Mosque) สร้างในปี ค.ศ. 1566-1567 ในช่วงจักรวรรดิออตโตมาน โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียง Minar Sinan เดิมออกแบบสร้างเพื่อให้เป็นสปาธรรมชาติ เนื่องจากมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ใกล้ๆ ผนัง ปัจจุบันเป็นมัสยิดแห่งเดียวในยุคออตโตมานที่ยังคงทำหน้าที่สำหรับชาวมุสลิมในเมืองโซเฟีย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน VICTORIA restaurant

นำท่านเดินชมเมืองโซเฟีย และพิพิธภัณฑ์สถาน ( Archaeological Museum ) ซึ่งมีจัดนิทรรศการ สิ่งของเครื่องใช้โบราณมารวบรวมไว้จัดแสดง นำท่านชมตลาดกลางของเมืองโซเฟีย ฮาเลต ( Halite Market ) เดินชมเมืองซึบซับบรรยากาศของเมืองโซเฟีย ร้านกาแฟ สวนสาธารณะในเมืองที่ชาวเมืองมาพักผ่อนหย่อนใจ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  

18.45 น. นำท่านไปยังสนามบินนานาชาติโซเฟีย เมืองโซเฟีย เพื่อเตรียมเอกสารเดินทางกลับประเทศไทย  

21.40 น. เดินทางขึ้นเครื่องเพื่อไปยังอิสตันบูล  ประเทศตุรกีโดยสายการบิน TURKIRSH AIRLINES เที่ยวบิน 

TK 1030

23.05 น. ถึงสนามบินอิสตัลบูล และเปลี่ยนเที่ยวบิน

01.25 น. ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน TURKIRSH AIRLINES เที่ยวบิน TK68 

15.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและประทับใจ